เทศน์เช้า วันที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๑
พระอาจารย์สงบ มนสฺสนฺโต
ณ วัดป่าสันติพุทธาราม (วัดป่าเขาแดงใหญ่) ต.หนองกวาง อ.โพธาราม จ.ราชบุรี
ตั้งใจฟังธรรมะนะ วันนี้วันพระ วันพระ ๑๕ ค่ำ วันพระใหญ่ วันพระ เรามาทำบุญกุศลของเรา มาทำบุญกุศลของเราเพราะอะไร เพราะเราเป็นชาวพุทธ แล้วชาวพุทธ สิ่งที่ว่าโยมมาทำบุญกุศลน่ะ สิ่งที่โยมตั้งใจมา เจตนามาอันนั้นสำคัญที่สุด คือเจตนาไง หัวใจของเราไง หัวใจที่มันเปิดกว้าง หัวใจที่เป็นสาธารณะ ทำประโยชน์เพื่อเรา
สิ่งที่เรามาทำบุญกุศล เราทำบุญกุศลเพื่อหัวใจของเรา เพราะหัวใจนี้เวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏะ สิ่งที่ทำบุญกุศล เราได้เจตนาทำแล้ว มาถวายทาน พอถวายทานพระ พระตักด้วยความกระฉับกระเฉง เห็นไหม ด้วยความกระฉับกระเฉง สิ่งที่กระฉับกระเฉง โยมไม่ต้องคิดติดใจว่าสิ่งของที่โยมทำได้ประโยชน์หรือไม่ได้ประโยชน์ มันยืนยันได้ด้วยชีวิตของพระภิกษุที่ยังมีชีวิตอยู่นี่ ชีวิตพระภิกษุที่ยังมีอยู่นี่ อาศัยปัจจัยที่โยมถวายทานๆ ดำรงชีพอยู่ ถ้าพระยังมีชีวิตอยู่ สิ่งที่โยมทำบุญกุศลนั้นได้ผลแน่นอน
มันได้ผลแน่นอนเพราะอะไร เพราะเห็นว่าเวลาตักใส่บาตรๆ แล้วของของเราจะได้ประโยชน์หรือ มันได้ประโยชน์ ยืนยันกับสิ่งที่ทำ เพราะอาหาร ปัจจัยเครื่องอาศัยทำให้พระดำรงชีพอยู่ได้ การดำรงชีพอยู่ได้ การดำรงชีพอยู่ได้ด้วยการฝึกฝน ดำรงชีพอยู่ได้เพื่อการค้นคว้า ค้นคว้าหาสัจธรรมในใจของตน ถ้าค้นคว้าหาสัจธรรมในใจของตน มันจะสมบูรณ์ไปด้วยพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ สัจธรรม สัจธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พวกเราแสวงหาอย่างนั้น
วันนี้วันพระตรงกับวันขึ้นปีใหม่ ถ้าวันขึ้นปีใหม่ วันนักขัตฤกษ์ ถ้าวันนักขัตฤกษ์เป็นวันของโลก เป็นวันที่มีมหรสพสมโภช มีความสนุกครึกครื้น ถ้าความสนุกครึกครื้นอย่างนั้นเราชอบ
แต่ถ้าเราไปวัดไปวา ไปวัดไปวาไปทำบุญกุศลของเรา บุญกุศลเพื่อความปลอดภัย ขอให้ชีวิตนี้ราบรื่น ขอให้ชีวิตนี้ประสบความสำเร็จ ขอให้ชีวิตนี้มีคุณค่า ขอให้ชีวิตนี้มีความสุขๆ นี่เป็นความปรารถนาของเราไง ถ้าความปรารถนาของเรา สิ่งที่ปรารถนานั้นอ้อนวอนขอพร แต่การขอพรๆ ถ้ามีการกระทำขึ้นมามันเป็นสัจจะความจริงของเราใช่ไหม
ถ้าเป็นสัจจะความจริงของเรา เราตั้งใจ เราตั้งใจว่า เราจะงดเว้น จะทำสิ่งใด ใกล้ปีใหม่แล้ว ตั้งใจแล้วๆ ก็ล้มลุกคลุกคลานมาตลอดไง ถ้าล้มลุกคลุกคลานมาตลอด เพราะมันไม่เป็นจริงเป็นจังขึ้นมาในหัวใจของเราไง ถ้ามันเป็นจริงเป็นจังขึ้นมาในหัวใจ สติ สมาธิ ปัญญา
ศีล สมาธิ ปัญญามีคุณค่ามากๆ สิ่งที่มีคุณค่า มีคุณค่าเพราะอะไร เพราะคนที่มีสติเขาไม่มีความประมาท เขาจะไม่ใช้ชีวิตของเขาโดยความพลั้งเผลอของเขา ถ้าเขามีสมาธิขึ้นมา สิ่งใดที่เขาจะทำเพื่อชีวิตของเขามันจะเป็นประโยชน์กับเขาขึ้นมา
แล้วถ้าเขามีปัญญาๆ นะ ปัญญาทางโลก ปัญญาทางโลกเป็นวิชาชีพ ปัญญาขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าคือปัญญารอบรู้ในกองสังขาร สังขาร ความคิด ความปรุง ความแต่ง สังขารที่มันเป็นความรู้สึกนึกคิดนี้ ความรู้สึกนึกคิดนี้มันให้ผลกับความเป็นทุกข์กับเรา ถ้าเราคิดขึ้นมาแล้วไม่สมความปรารถนา มันก็มีความขัดใจของเรา
แต่ถ้าเรามีสติมีปัญญานะ รอบรู้ในกองสังขาร รอบรู้ในความคิดนะ ความคิดนี้เป็นประโยชน์หรือความคิดนี้เป็นโทษ ความคิดนี้เป็นประโยชน์จากโลกนี้หรือโลกหน้า ความคิดนี้ๆ ไง ถ้าความคิดนี้มันเท่าทันความคิดนี้ เห็นไหม ปัญญารอบรู้ในกองสังขาร สังขาร ความคิด ความปรุง ความแต่งของเรา ถ้าเรารอบรู้ความคิดของเรา ธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามันมีค่า มีค่าที่นี่ไง
คนเรา ชีวิตนี้จะราบรื่น ราบรื่นเพราะเรามีสติมีปัญญาของเรา ถ้ามีสติปัญญาของเรา เราทำขึ้นมาเป็นความจริงๆ นะ ศักยภาพของมนุษย์ ในบรรดาสัตว์สองเท้าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าประเสริฐที่สุด เวลาถ้าคบมิตรให้คบองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แต่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านก็ปรินิพพานไปแล้ว ฉะนั้น เวลาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าวางธรรมวินัยนี้ไว้นะ ดูสิ เวลาพระอานนท์ถามองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าปรินิพพานไปแล้ว พระจะเอาอะไรเป็นที่พึ่งที่อาศัย
ธรรมและวินัยนี้ที่เราตรัสไว้แล้วเป็นศาสดาของเธอ ธรรมและวินัยที่เราตรัสไว้แล้วเป็นศาสดาของเธอ ธรรมและวินัยที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้แล้ว ถ้าตรัสไว้แล้ว นี่เป็นศาสดาของเรา
ถ้าเป็นศาสดา องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสอนเรื่องอะไรไว้ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าดำรงชีพอย่างไรเป็นตัวอย่าง องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเคยตอกย้ำว่าให้ทำอย่างไร นี่ไง นี่เป็นเป้าหมายของเราไง
ชีวิตเราๆ ชีวิตทางโลกถ้าเราขวนขวาย เราประสบความสำเร็จสมความปรารถนา นั้นมันก็เป็นบุญกุศลของเรา เป็นโอกาสของเรา แต่ถ้าหัวใจของเรา หัวใจของเราล่ะ คุณธรรม ธรรมที่มันประเสริฐๆ ธรรมมันอยู่ที่ไหน
ธรรมให้ความสุขนะ ปัจจัยเครื่องอาศัยเราหามาเพื่อดำรงชีพ ดำรงชีพเรา คนเราเกิดมาเป็นญาติกันโดยธรรม มีปากและท้องเหมือนกัน ต้องอาศัยปัจจัย ๔ เหมือนกันไง แต่ถ้าคนมีคุณธรรมในหัวใจ คุณธรรมในหัวใจสิ ธรรมในหัวใจนั่นน่ะความสุขแท้ ถ้าความสุขแท้ขึ้นมา ถ้ามีธรรมในหัวใจแล้ว เราจะยืนในสังคมด้วยความรื่นเริงและอาจหาญ ไม่น้อยเนื้อต่ำใจสิ่งใดทั้งสิ้น ไม่หวาดระแวงอะไรเลยนะ
คนเราที่มีความทุกข์ความยากอยู่นี่เพราะความหวาดระแวง เพราะว่าเราด้อยกว่าเขา เราด้อยกว่าเขาตรงไหน เกิดมาเป็นคนเหมือนกัน อาการ ๓๒ เหมือนกัน ทุกอย่างสิทธิเสรีภาพเท่ากัน มันไปด้อยกว่าตรงไหนล่ะ มันด้อยกว่าๆ มันพร่องในใจเรานี่ไง เพราะในใจเรามันด้อย ใจของเรามันโหยหา
ถ้าใจของเรามันอิ่มเต็มนะ มนุษย์เหมือนกัน มีศักยภาพเหมือนกัน ถ้ามีศักยภาพเหมือนกันนะ ถ้ามีสติปัญญาขึ้นมา จะย้อนกลับมาที่เราแล้ว จะดีจะชั่วมันอยู่ที่ใจเรานี้นะ คนเราจะดี ดีที่นี่ ดีที่ความรู้สึกนึกคิดเรานี่ ดีที่จิตใจที่เป็นประโยชน์นี่ แต่ถ้าคนจิตใจที่มันเอารัดเอาเปรียบ เอารัดเอาเปรียบก็ทำลายตนเองก่อนไง ถ้าทำลายตนเองก่อนก็ไปทำลายผู้อื่น เห็นไหม แต่ถ้าเป็นธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านทำลายกิเลสในใจของท่าน
ความตระหนี่ ความเห็นแก่ตัว ความอยากได้ ความเหยียบย่ำเขา มันเป็นกิเลสทั้งนั้น สิ่งที่เป็นกิเลสมันเป็นความเสียหายทั้งนั้น ถ้ามันเป็นความเสียหาย มันเกิดที่ไหนต้องดับที่นั่น มันเกิดที่ใจเราก่อน มันต้องดับที่ใจเราให้ได้ อย่าให้มันออกไปข้างนอก แล้วมันก็ดีดดิ้นอยู่ในหัวใจนี่ไง
ถ้ามันเป็นความจริงๆ ขึ้นมา เรามีสัจจะมีความจริง เราต้องมีสติสิ คนเราบอกว่า ปรารถนาดี รักดี คนเรารักตัวเองทั้งนั้นน่ะ เวลารักตัวเองทั้งนั้น รักอะไร ถ้ารักกิเลส มันก็เผาเรา ถ้ารักธรรมๆ มันผ่อนคลาย มันผ่อนคลาย
มันออกเริ่มต้นมันเป็นความยากเย็นทั้งนั้นน่ะ ความยากเย็น เห็นไหม เอาชนะตนเองยากที่สุด จะเอาชนะคนอื่นด้วยกำลัง ด้วยอิทธิพล ชนะเขาได้ทั้งนั้นน่ะ แต่การชนะตนเองนี้แสนยาก แล้วการชนะตนเอง พอมันชนะตนเองได้แล้ว ใจทุกๆ ดวงในโลกนี้เหมือนใจดวงนี้แหละ ใจของคนเหมือนใจของคน ใจที่มันดีดดิ้นในใจทุกคนเหมือนกันหมด ถ้าเราชนะใจของเราแล้ว แล้วใจของคนอื่นล่ะ ใจของคนอื่นมันอยู่ในใจของเขานะ เราชนะเราแล้วจบนะ ถ้าชนะแล้ว แล้วชนะมันมีความสุขไง ถ้ามีความสุข ความสมความปรารถนา
เวลาวันปีใหม่ก็ขอให้อวยพร อวยพรว่า ชีวิตนี้อยากจะประสบความสำเร็จ ชีวิตนี้อยากจะราบรื่นดีงามต่างๆ
ชีวิตนี้มีการพลัดพรากเป็นที่สุด ถึงที่สุดแล้วเราต้องไปข้างหน้า ใครจะเชื่อหรือไม่เชื่อนั้นมันเป็นความเชื่อ ถ้าเป็นความจริง ความจริงเพราะอะไร เพราะความรู้สึกนี้ทำลายไม่ได้ อย่างอื่นทำลายได้หมดนะ ความรู้สึกคนทำลายไม่ได้ จิตที่เวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏะ ถ้ามันยังมีความรู้สึกนี้อยู่ เวลามันออกจากร่างนี้ไปแล้วมันไปไหน ถ้ามันไปไหน มันไปของมัน เห็นไหม
ถ้าเรายังเชื่ออยู่ว่าจิตนี้เวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏะ เราก็พยายามจะสร้างคุณงามความดีของเราๆ คำว่า “สร้างคุณงามความดีของเรา” เพราะเราเกิดเป็นมนุษย์ มนุษย์นี้เป็นอริยทรัพย์ การเกิดเป็นมนุษย์แสนยาก คำว่า “แสนยาก” ธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเปรียบเหมือนเต่าตาบอดมันอยู่กลางทะเล แล้วมีบ่วงอยู่บ่วงหนึ่ง ถ้ามันโผล่เข้าสู่บ่วงนั้นมันได้เกิดเป็นมนุษย์ไง แต่ทำไมมนุษย์เรามหาศาล แต่เดิมเราเด็กๆ เมืองไทยมี ๑๖ ล้านคน ตอนเรียนนี่จำเลย ท่องมา เมืองไทยมี ๑๖ ล้านคน แล้วมันมาจากไหน
มันมาจากจิตหนึ่งเวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏะ สิ่งที่เราไม่รู้ไม่เห็นด้วยสายตาของเรา เราไม่รู้ไม่เห็นด้วยสายตาของเรานะ แต่ความรู้สึกของเรา ความรู้สึกของเรามันมีใช่ไหม ถ้าความรู้สึกมันมี สิ่งที่มันเวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏะมา แล้วมันจะต้องเป็นไป เป็นไปเหมือนกับเราเกิดในปัจจุบันนี้ เกิดในปัจจุบันนี้เพราะเรามีอำนาจวาสนา เราถึงได้มาเกิดเป็นมนุษย์ เป็นมนุษย์ต้องมีมนุษย์สมบัติ ถ้ามีมนุษย์สมบัติ
จิตนี้ไม่มีเว้นวรรค ความรู้สึกไม่เคยตาย ความรู้สึกมันต้องดำรงชีพของมันตลอด โอปปาติกะ เสวยตลอดไป ถ้ามันตลอดไป ถ้ามันจากนี้ไป การเกิดเป็นมนุษย์เป็นอริยทรัพย์ แล้วมันเกิดเป็นอย่างอื่นล่ะ เกิดเป็นอบายภูมิ เกิดเป็นเทวดา อินทร์ พรหมต่างๆ มันเกิดทั้งนั้นน่ะ มันเป็นผลของวัฏฏะๆ ไง กามภพ รูปภพ อรูปภพ คนภาวนามันจะรู้จัก พอรู้จักขึ้นมาเพราะอะไร เพราะมันพิจารณาไปแล้วเวลามันละสังโยชน์ ๓ เป็นพระโสดาบัน เป็นพระโสดาบันเกิดอีก ๗ ชาติเท่านั้น เวลาเป็นสกิทาคามี เป็นอนาคามี ไม่เกิดแล้วในกามภพ แล้วมันเป็นอย่างไงล่ะ ไม่เกิดอีก กามภพ เกิดบนพรหมเท่านั้น ถ้าเกิดบนพรหม พอทำลายแล้วไป ทำลายทั้งหมด ทำลายทั้งหมด ทำลายที่ไหน ทำลายที่ใจ เพราะใจนี้มันไปเสวยภพชาติไง แต่สิ่งที่วัดผลของวัฏฏะมันมีโดยธรรมชาติของมัน เหมือนทวีปมันมีของมันอยู่แล้ว เราเดินทางไปอยู่ทวีปไหนเท่านั้นเอง นี่ก็เหมือนกัน เราไปอยู่ที่ไหนเท่านั้นเอง แต่ถ้าเราทำลายแล้วเราไม่ไป ไม่มีเรา ทวีปมันก็อยู่อย่างนั้นน่ะ กามภพ รูปภพ มันก็อยู่ของมันอย่างนั้นน่ะ ผลของวัฏฏะ วัฏฏะมันมีของมันอยู่อย่างนั้นน่ะ วัฏฏะมันมีของมันอยู่นะ เพราะโลกนี้เป็นอจินไตย
อจินไตย ๔ พุทธวิสัย ปัญญาขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่มีใครเทียบเคียงได้ เรื่องกรรม เรื่องฌาน เรื่องโลกเป็นอจินไตย นี่ไง อจินไตย ๔ ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไง เพราะองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้พยากรณ์ไว้ แค่อริยสัจนะ ทางยุโรป ทางวิชาการเขาเพิ่งมาตามทันเมื่อไม่กี่ปีนี้เอง แต่ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้มา วางธรรมวินัยตั้งแต่ ๒,๐๐๐ กว่าปี ถ้าอริยสัจมันเข้าที่ไหน อริยสัจมันเข้าที่ใจ ถ้าใจนี้มันเป็นจริงๆ
นี่พูดถึงว่า วันนี้เป็นวันพระ วันพระเป็นวันพระของชาวพุทธเรา เราจะแสวงหาคุณงามความดีของเรา ถ้าเราแสวงหาคุณงามความดีของเรานะ แล้วถ้าเป็นวันปีใหม่ด้วย วันปีใหม่มันเป็นสากลใช่ไหม ถ้าเป็นสากล มันเป็นเป้าหมาย มันเป็นสิ่งที่สังคมยอมรับกันนะ เราทำร่วมกันๆ พอถึงวันสิ้นปี สิ่งใด เรามาทบทวนชีวิตของเรา เราจะเริ่มต้นชีวิตของเราใหม่ ถ้าเริ่มต้นชีวิตของเราใหม่
เราจะบอกว่า ทางโลกมันก็เป็นเรื่องโลกๆ เราต้องอยู่กับเขา พระก็ต้องอยู่กับโลกทั้งนั้นแหละ แต่ถ้าเป็นเรื่องของทางธรรมๆ คือเป็นสิทธิส่วนบุคคลไง มันเป็นสิทธิในใจเรา เพราะเวลาใจมันทุกข์ ใจเราเองมันทุกข์ เวลาศึกษาธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้านี่ธรรมะสาธารณะ ธรรมะเป็นธรรมชาติๆ อากาศหายใจร่วมกัน สาธารณูปโภคใช้ร่วมกัน แต่เราเป็นคนใช้
นี่ก็เหมือนกัน สิ่งที่พอจะประพฤติปฏิบัติขึ้นมา มาวัดมาวามาปฏิบัติกัน ก็ต้องต่างคนต่างอยู่ ปัจจัตตัง สันทิฏฐิโก ปัจจัตตังในใจของตน สันทิฏฐิโก รู้จำเพาะในใจนั้น เพราะในใจนั้นมันมหัศจรรย์ เพราะรู้ว่าใจนั้นนะ ดูสิ เวลาทำความสงบของใจเข้ามา พอจิตเป็นสมาธิ สว่างไปหมดเลย สว่างนั้นมันออกรู้ แต่จริงๆ แล้วจิตมันสงบ พอจิตมันสงบแล้ว สิ่งที่เวลามันสงบมันมหัศจรรย์ที่นี่ไง
พระพุทธศาสนามันมีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ สัจธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ากราบธรรมๆ อยู่ไง แล้วเราล่ะ เราก็เป็นคนคนหนึ่งนะ เรามีหัวใจนะ เรามีพุทธะนะ เรามีผู้รู้นะ ผู้รู้ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบอกว่า ผู้ใดปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรมไง ถ้าทำความสงบของใจได้ ได้ไปเฝ้าพุทธะองค์เป็นๆ เลย ความรู้สึก อ๋อ! มันเป็นอย่างนี้เองๆ แล้วจะซาบซึ้งธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาก แล้วมันอยู่กับหัวใจของเราน่ะ ถ้ามันอยู่กับหัวใจของเรา มันจะประสบได้อย่างไร ประสบได้ด้วยการทำความสงบ ๔๐วิธีการ
การทำความสงบ ๔๐ วิธีการ กรรมฐาน ๔๐ ห้อง เรากระทำของเรา แล้วถ้ามันเป็นความจริงของเรา ถ้าเป็นความจริงของเรา เราเกิดเป็นมนุษย์ไม่เสียชาติเกิด การเกิดเป็นมนุษย์ สิ่งที่เกิดเป็นมนุษย์ เกิดมาพบพระพุทธศาสนา พระพุทธศาสนาวางธรรมวินัยไว้มหาศาลเลย ให้เราค้นคว้า ให้เรามีการกระทำขึ้นมาให้เป็นความจริงขึ้นมา ถ้าเป็นความจริงขึ้นมา นั่นศักยภาพของมนุษย์ มนุษย์มีคุณค่ามาก
เราไปมองแต่ความเจริญทางวิทยาศาสตร์ วิทยาศาสตร์มันเจริญเป็นเรื่องของคุณภาพชีวิต ชีวิตเรา เราก็อาศัย ที่พูดอยู่นี่ก็วิทยาศาสตร์ทั้งนั้นน่ะ เพราะการสื่อสารไง แต่การสื่อสาร เราเป็นทำนะ ย้อนกลับมา ย้อนกลับมาที่จิตนี้ ถ้าย้อนกลับมาที่จิตนี้ สิ่งที่เกิดขึ้นมา เกิดขึ้นมาจากน้ำมือของเรา เกิดขึ้นมาจากความคิดของเรา เกิดขึ้นมาจากภวาสวะ เกิดขึ้นจากภพ เกิดขึ้นจากสิ่งที่มันเกิดขึ้นในใจนี้ ถ้าใจนี้กระทำแบบนี้ ย้อนกลับมาที่นี่
วันปีใหม่ ถ้าอวยพรทางโลกมันก็อวยพรได้ทั้งนั้นน่ะ อวยพรนะ อวยพร ขอพร แต่ถ้าขอพรแล้ว เราทำขึ้นมาให้มันเป็นจริงเป็นจังของเราขึ้นมา ให้เห็นคุณค่าในใจของเรา มันเริ่มต้นจากทัศนคติ จากเจตนาของเรา มันไม่เชื่อ พอไม่เชื่อขึ้นมาแล้ว เราอยากจะเอาความสุข อยากเอาที่เราสมความปรารถนา สมความปรารถนาด้วยไอเดีย ด้วยความคิดเราที่อ่อนแออย่างนี้มันจะได้อะไรมา แต่ถ้ามันเป็นความจริง ตัวอย่างขึ้นมา ศาสดาของเราเป็นตัวอย่าง ครูบาอาจารย์เราเป็นตัวอย่าง แล้วเราเกิดมาเห็นครูบาอาจารย์ท่านทำของท่านมา เราก็ทำสิ ความรู้เรียนทันกันได้นะ ปฏิบัติก็ทันกันได้
ความรู้เรียนทันกันได้ ใครมีความรู้ขนาดไหน เรามีการศึกษา เดี๋ยวเราศึกษาทันจนได้ การปฏิบัติถ้าเราเอาจริงเอาจังขึ้นมา เราทำของเราขึ้นมาได้ แล้วทำขึ้นมาได้ ตรวจสอบได้เลย อาจารย์จริงหรืออาจารย์ไม่จริง อาจารย์โกหกหรือไม่โกหก เพราะว่าความจริงเรามันไม่เหมือนกัน เพราะอริยสัจมันมีหนึ่งเดียว มันต้องเหมือนกันหมด ความเหมือนกันอันนั้นมันถึงเป็นสัจจะเป็นความจริง แต่มันเกิดกับหัวใจของเราไง มันมีค่า มีค่าที่นี่
เราเห็นว่า ธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าประกาศมา ๒,๐๐๐ กว่าปีแล้วนะ มรดกตกทอดมาถึงพวกเรา แล้วคนที่จะเข้าถึงได้ต้องเอาหัวใจเข้าสัมผัส การศึกษาด้วยตา การศึกษาด้วยสมอง ทฤษฎีทั้งนั้นน่ะ สุตมยปัญญา ปัญญาเกิดจากการศึกษา จินตมยปัญญา ปัญญาเกิดจากจินตนาการ ภาวนามยปัญญาทำกันไม่เป็น ทำกันไม่ได้ เพราะมันทำสมาธิไม่เป็น ถ้ามันทำสมาธิได้ พื้นฐาน ศีล สมาธิ ปัญญา
ไม่มีสมาธิ ภาวนามยปัญญาเกิดไม่ได้ ไม่มีทาง สิ่งที่เกิดได้เป็นสัญชาตญาณ เป็นโลกียะหมด เกิดจากภพ เกิดจากความรู้สึกของเรา แต่ถ้าเป็นภาวนามยปัญญามันเกิดขึ้นมา นั่นน่ะมันจะสมบูรณ์แบบ สมบูรณ์แบบว่า เวลาครูบาอาจารย์ท่านประพฤติ ท่านประพฤติอย่างนั้น ธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระพุทธศาสนามีคุณค่าอย่างนั้น มีคุณค่าที่สามารถทำให้คนคนหนึ่งขาวสะอาดได้ ขาวสะอาดทางหัวใจนะ ไม่ใช่ขาวสะอาดจากการอาบน้ำ การขัดสีฉวีวรรณ ไม่ใช่ ขาวสะอาดทางหัวใจได้ แล้วซาบซึ้งเหมือนกัน นี่ศักยภาพของมนุษย์มีคุณค่าอย่างนี้
ถ้าวันนี้วันพระ วัน ๑๕ ค่ำ เป็นวันการขวนขวายทำบุญกุศลของเรา มันตรงกับวันปีใหม่ ถ้าวันปีใหม่ขึ้นมาแล้ว ปีใหม่เป็นเรื่องของโลก ถ้าวันพระ วันโกนเป็นเรื่องของศาสนา เป็นเรื่องของธรรม เราก็ทำบุญกุศลไป เพราะเราเป็นชาวพุทธด้วย แล้วทำบุญกุศลเพื่อวันปีใหม่ของเราด้วย แล้วทำบุญเพื่อพุทธะในใจของเราด้วย เอวัง